การดูแลรถยนต์ตอนน้ำท่วม
การดูแลรถยนต์ตอนน้ำท่วม
ระดับน้ำแค่ไหนไม่ควรขับลุยน้ำ ?
- ระดับน้ำที่สูงเกิน 20 ซม.หรือเกินครึ่งล้อ หรือปริ่มๆท้องรถ ถือว่าเป็นระดับที่ไม่ควรขับต่อไปได้
หากต้องลุยน้ำท่วมต้องทำอย่างไรบ้าง ?
1. ให้ปิดระบบเครื่องปรับอากาศในรถทั้งหมด
2.เว้นระยะให้ห่างจากรถคันหน้า 5 เมตร เพื่อป้องกันการเบรคลื่น
3.ใช้เกียร์ต่ำ ขับช้าๆ ป้องกันการกระแทกจากน้ำ ทำให้ป้ายทะเบียนหลุดได้
4.ควรเร่งเครื่อง เบิ้ลเครื่อง เลียครัช ไว้ตลอดทางที่ลุยน้ำเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ดับ
5. ถ้าเครื่องยนต์ดับกลางน้ำ ห้ามฝืนสตาร์ทเครื่องเด็ดขาดเพราะน้ำที่เข้าไปในท่อไอเสียจะย้อนเข้าไปในเครื่องยนต์หรือทำให้แรงดันภายในเครื่องยนต์สูงเพราะน้ำเข้าไปอั้นในท่อไอเสีย
6. หลังจากขึ้นจากน้ำแล้ว ให้ทำการเหยียบเบรค ย้ำเบรคเบาๆเพื่อทำความสะอาดหน้าผ้าเบรคและทำให้ผ้าเบรคแห้งหลังวิ่งแช่น้ำมา
การตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง
เมื่อมีการขับลุยน้ำลึกมา อาจมีการซึมหรือกระเด็นของน้ำเข้าสู่ห้องเครื่องได้ ควรเช็คดังนี้
1. เปิดฝากระโปรงหน้ารถ แล้วดึงก้านวัดระดับน้ำมันเครื่องขึ้นมาดูสีของน้ำมัน
2.สีของน้ำมันเครื่องที่มีน้ำผสมจะเป็นสีน้ำนม ถ้าพบว่าเป็นสีน้ำนมหรือมีน้ำมาเกาะตามก้านวัด ก็ต้องทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องและใส้กรองทันที
การตรวจเช็คระบบเบรค
เมื่อมีการลุยน้ำมาเป็นเวลานาน แน่นอนว่าผ้าเบรคจะชื่นและบวมน้ำ ต้องกระทำอย่างนี้
1. ผ้าเบรคที่บวมน้ำจะทำให้รถเบรคติดได้หรือเมื่อเราเบรคจะรู้สึกว่ามันกระตุก กึ้กๆ ล้อหยุดกระทันหัน ให้ทำการเหยียบย้ำเบรคเบาๆเป็นระยะระยะ เพื่อให้ผ้าเบรคแห้ง และกลับเข้าสู่ปกติ
2. ผ้าเบรคที่ผิวหน้าเปียกน้ำจะทำให้รถเบรคลื่นได้หรือเมื่อเราเบรคจะรู้สึกว่ามันเบรกแล้วไหล ให้ทำการเหยียบย้ำเบรคเบาๆเป็นระยะระยะ เพื่อให้ผ้าเบรคแห้ง และกลับเข้าสู่ปกติ
3. หากตรวจพบว่าผ้าเบรคบวมน้ำจนผิวหลุดร่อน ต้องทำการเปลี่ยนผ้าเบรคใหม่ทันที
การตรวจสอบระบบไฟฟ้า
เมื่อมีการลุยน้ำ แน่นนอนว่าระบบที่สำคัญมากคือระบบไฟฟ้า ให้ปฏิบัติดังนี้
1. ตรวจเช็คมัดสายไฟในจุดต่างว่ามีส่วนไหนขาดหรือหลุดบ้าง โดยเฉพาะส่วนของไฟตัดหมอกที่ค่อนข้างอยู่ต่ำ
2. ใช้ลมเป่าสายไฟและขั่วต่อต่างๆให้แห้ง
3. ใช้น้ำยาไล่ความชื้นระบบไฟฟ้าชนิดสเปรย์ ฉีดไปยังจุดขั้วต่อสายไฟต่างๆเพื่อล้างคราบขี้เกลืออันเกิดจากความชื้น
ตรวจสอบพื้นพรม
ถ้าพบว่าพื้นพรมเปียก
1. ต้องทำการรื้อพรมออกมาตาก ป้องกันกลิ่นเหม็นอับ
2. ทำความสะอาดพื้นรถภายในให้แห้ง ป้องกันสนิม
3. ควรทำการอบโอโซนเพื่อไล่ความชื่นและกลิ่นอับชื่นร่วมด้วย
